ชีวิตสโลว์ไลฟ์ของเทพนักฆ่า [ภาค สงครามพรมแดน]

หมายเลขศูนย์ หรือ เซรอส นักฆ่าที่สมบูรณ์แบบที่เป็นความล้มเหลวจนถูกสั่งให้ทำลายทิ้ง

เขาได้รับพรในการสร้างจากพระเจ้า แลกเปลี่ยนกับการปกป้องไม่ให้โลกใบหนึ่งต้องล่มสลาย

มีร่างกายแข็งแกร่งที่สุดในโลก ไร้ซึ่งอายุขัย และเกือบจะเป็นอมตะ

กระดูกถูกเปลี่ยนโครงสร้างด้วยสารเคมีทำให้มีความแข็งแกร่ง

ผิวหนังมีความทนทานขนาดที่กระสุนเจาะเกราะก็ไม่อาจทะลวงผ่านได้

เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ ศาสตร์การฆ่า เทคนิคเอาตัวรอดทุกอย่าง

ภายหลังที่ได้รับการคืนตัวตนที่ถูกลบไปจากพระเจ้า

เขามีความต้องการจะใช้ชีวิตอันแสนสงบสุขในโลกแห่งใหม่

ภาค โรงเรียนเวทมนตร์ (ตอนต้น)

เซรอส แอชเชอร์ ดูภายนอกก็เหมือนกับเด็กหนุ่มธรรมดาที่พบเห็นได้ทั่วไป

แต่ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือนักฆ่าที่อายุไม่ใช่น้อยๆ แถมยังมีฝีมือระดับพระกาฬ

เพื่อดูแลเด็กทั้งสองคน ในฐานะของผู้ปกครองย่อมปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้

แต่ดูเหมือนหน้าที่ของเขาจะไม่ได้มีแค่นั้น

เมื่อ คาเรน เรเบียส หญิงสาวที่พระเจ้ามอบหมายให้เขาคอยดูแลเผชิญหน้ากับปัญหา

เป็นธรรมดาที่เขาคนนี้จะต้องกำจัดปัญหาก่อนที่จะทำให้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ของเขาปั่นป่วน

ภาค โรงเรียนเวทมนตร์ (ตอนปลาย)

ศึกประลองเวทมนตร์ในปีนี้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีแผนการร้ายแอบแฝงอยู่

จอมเวทอัจฉริยะทุกคนล้วนตกเป็นเป้าหมายของการก่อการร้าย

แต่ยังไม่เท่ากับสัตว์ร้ายที่นอนหลับถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยความเดือดดาล

"เหตุผลเดียวที่ฉันมาในวันนี้ ก็เพื่อทำให้พวกแกหายไป"

ภาค เฮฟเว่น

ภารกิจสนับสนุนลูกรักของพระเจ้าให้กลายเป็นผู้ปกครองดินแดนต้องสาปยังคงดำเนินต่อไป

ระหว่างที่เซรอสและพวกเด็ก ๆ กำลังใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในฐานะของนักเรียนของโรงเรียนเวทมนตร์

แผนการชั่วร้ายของวิหารศักดิ์สิทธิ์เพื่อยึดครองอาณาจักรไอทาเรียก็ได้เริ่มต้นขึ้น

คาเรน เรเบียส ที่สร้างผลงานไว้โดดเด่นตกเป็นเป้าหมายของเงามืด

เดือดร้อนถึงมือของนักฆ่าหนุ่มให้ต้องรับภารกิจฉุกเฉินและทำลายภัยคุกคามลงให้ราบคาบ

ภาค สงครามพรมแดน

การปรากฎตัวของ ผู้กลับชาติมาเกิด กลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามระหว่างสองอาณาจักร

นักเรียนโรงเรียนเวทมนตร์เกือบทุกคนต้องถูกเกณฑ์ไปเข้าร่วมสงครามอย่างเลี่ยงไม่ได้

เพื่อรักษาชีวิตอันแสนสงบสุขของตนเองและพวกเด็ก ๆ ต่อไป

เซรอสไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องกระโดดเข้าร่วมสงครามนี้ด้วยตัวเอง

"สงครามน่ะควรเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ เด็กพวกนั้นควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไปสิ"